มันเทศ คาร์โบไฮเดรตมากประโยชน์

ชวนกินมันเพื่อขจัดไขมัน

       

มันเทศเวียดนาม นึ่งอร่อย หว๊าน หวาน ไม่ต้องจิ้มน้ำตาลเลยนะ

          ยังอยู่ในโหมดลดความอ้วนนะคะ แต่ถึงจะเบี้ยน้อย ฟุ้งก็ไม่ยอมอดแน่ๆ ค่ะ

          โธ่...จะทำอย่างนั้นได้อย่างไร? ในเมื่อแค่ขาดอาหารเกิน 3 ชั่วโมงก็เกินหน้ามืดตาลาย ใจสั้น ขาอ่อน เดินไม่เป็นละ ไม่รู้จะเกี่ยวกับความดันต่ำไปนิด หรือไขมันมากไปหน่อยรึเปล่านะ (ความดันประมาณ 80 -100 ไขมันไม่เคยตรวจวัด แต่มีห่วงยางรอบเอว)

          แต่อาหารตามโปรแกรมลดน้ำหนักทั่วๆ ไปน่ะ ทำก็ยุ่งยาก กินมากๆ ก็เบื่อ ก็ฟุ้งเป็นแม่ครัวเถื่อนนี่นา จะให้ทำอาหารแบบปราณีตอย่างคนอื่นเค้าได้ไง

          วันเสาร์ที่ผ่านมาอ้อนคุณป้อม ให้พาไปแมคโครได้สำเร็จ ได้หมูสับ น่องไก่ และเศษเนื้อน่องไก่มาติดตู้เย็นไว้ทำอาหารให้ลูกกิน ส่วนโซนผักได้มันเทศมาอย่างเดียว โลละ 75 บาทแน่ะ แต่เห็นแล้วก็อดไม่ได้ นึกอยากกินมันเทศมานานละ แต่ตลาดนัดแถวบ้านก็ไม่เคยมีขายเลย อ้อ...เคยมีเจ้านึงขายมันเทศนึ่งถุงละ 20 บาท ตอนนั้นมีหลายสีเลย หัวเล็กๆ แต่ซื้อมาถุงเดียวเป็นมันเทศสีม่วง อร่อยดีนะ และคิดว่ามีประโยชน์เยอะดี ไม่ต้องผ่านการแปรรูปด้วย ก็พยายามหาแบบดิบจะได้เก็บไว้กินได้หลายวันหน่อย นั่นก็ผ่านมาจะปีแล้ว ยังไม่เคยเจออีกเลย เจอแต่มันหวาน มันไข่ ที่อยู่ในหม้อผสมกะทิกับน้ำตาลเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็ไม่ใช่แบบที่ต้องการ เพราะชอบกินแบบมันนึ่ง มันเผามากกว่า ยิ่งมันเผาด้วยแล้ว บอกเลย ฟินเว่อร์ แต่สถานที่อยู่ไม่อำนวยให้เผา เอานึ่งแทนก็ได้ ไปหาหัวมันมาให้ได้ก่อน...

          และแล้วก็ได้มา แม้ไม่ใช่มันเทศสีม่วงอย่างที่เสาะหา แต่สีก็คล้ายๆ อยู่นะ ออกแดงๆ ม่วงนิดๆ แต่ชื่อภาษาอังกฤษของเค้าคือ Yellow Sweet Potato ไอ้เราก็นึก...มันเหลืองตรงไหนว๊า? แต่ในที่สุดก็หยิบมาเพราะหัวมันสวยน่ากินกว่ามันเทศอีกชนิดที่หัวโต เปลือกสีอ่อนกว่า แต่หน้าตาไม่งาม สนนราคากิโลกรัมละประมาณ 29 – 34 บาทเอง (จำราคาแน่นอนบ่ได้เด้อ)...ถูกกว่ากันตั้งแยะ แต่ไม่เอา แบบว่าอยากลองของใหม่บ้าง เช็คราคาแล้วเกือบ 150 บาท ขาดไม่กี่เศษสตางค์ ได้มา 9 หรือ 10 หัวนี่ล่ะ

          ลองเอาไปนึ่งก่อนสามหัว อุต๊ะ!...หวานเอาเรื่อง ไม่ต้องจิ้มน้ำตาลใดๆ แล้วไม่ต้องกลัวอ้วนนะ น้ำตาลธรรมชาติต่างจากน้ำตาลที่ผ่านกระบวนการผลิตเยอะ ถึงแม้หลายๆ ทฤษฎีจะอ้างว่ามันเหมือนกัน แต่จากผลการทดลองทั้งจากผู้อื่นและจากตัวเองพบว่าการรับแป้งและน้ำตาลจากธรรมชาติแบบนี้ ไม่อ้วนค่ะ

          อีกวันคุณป้อมเอามาปิ้งค่ะ ไม่มีเตาถ่าน มีแต่เตาปิ้งเอนกประสงค์ ปิ้งเป็นชาติกว่าจะสุกได้ เนื้อข้างในยิ่งหวานกว่ามันนึ่งอีก และมีน้ำฉ่ำๆ ด้านใน ไม่ซุย ซึ่งหากนึ่งเนื้อจะออกซุยกว่า แห้งกว่า แต่ฟุ้งว่ามันชนิดนี้ฟุ้งชอบแบบนึ่งมากกว่า หรือว่าต้องเอาไปหมกในไฟฟืนถึงจะอร่อยก็ไม่รู้ ตอนเด็กๆ จำได้ว่ามันเผานี่อร่อยที่สุดเลย แต่ตอนนั้นเราจะยัดเข้าไปในกองไฟที่ก่อจากฟืนไว้ผิงในหน้าหนาว แม้แต่มันสำปะหลังที่เรียกกันว่า “มันห้านาที” เอาไปเผาไฟแบบนี้ก็ยังอร่อยน่าดู

          อ้อ...ชื่อภาษาไทยของมันชนิดนี้คือมันเทศเวียดนาม ...บอกไว้ เผื่อใครอยากไปซื้อหามากินบ้าง ถ้าใครไม่อยากนึ่งเองก็ซื้อที่นึ่งสำเร็จแล้วเอาก็ได้ ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำน่าจะมี เคยเห็นที่ฟู้ดแลนด์ นึ่งแล้วขายขีดละ 12.50 บาท

          วิธีการนึ่งมันก็ไม่ยาก ล้างหัวมันให้สะอาด ไม่ต้องปอกเปลือกนะ โยนใส่ลังถึงที่น้ำเดือดแล้ว (ซึ้งนั่นแหละ) ไฟเดือดๆ นึ่ง 10 – 15 นาที เอาส้อมหรือมีดเล่มเล็กก็ได้จิ้มดู ถ้าจิ้มทะลุหัวมัน แสดงว่าสุกแล้ว ปิดไฟ คีบหัวมันมากินได้เลย...ถ้าไม่กลัวร้อน คิคิ

          มาดูสรรพคุณกันบ้างค่ะ มันเทศ ลดไขมันในเลือด ลดคอเลสเตอรอล ลดไตรกลีเซอไรด์ แก้ท้องผูก ช่วยย่อยอาหาร รักษาเบาหวาน ...ถูกใจใช่ไหมล่ะ?

          ยัง...ยังไม่หมดสำหรับคนที่ใช้คอมพิวเตอร์แบบเราบ้าง ป้องกันต้อกระจก ตาบอดกลางคืน บำรุงสายตา บำรุงสมอง ลดอาการซึมเศร้า นอนไม่หลับ ช่วยให้อารมณ์ดี หัวเราะง่าย

          เนื่องจากมันเทศมีสีเปลือกและสีเนื้อที่ต่างกัน ประโยชน์หรือคุณค่าอาหารจึงต่างกันด้วย มันเทศเนื้อสีเหลืองส้มจะมีเบตาแคโรทีนสูงมาก จึงช่วยเรื่องสายตา ส่วนเนื้อสีม่วงมีสารแอนโทไซยานิน ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ลดอัตราเสียงของการเกิดโรคหัวใจและเส้นเลือดในสมองอุดตัน จะให้ดีก็กินทั้งเปลือกจะได้สารอาหารมากขึ้น (แต่ฟุ้งก็กินไม่ได้อยู่ดี เปลือกมันติดคอ)

          อย่างไรก็ตามแม้หัวมันเทศจะมีประโยชน์มากมายแค่ไหนก็สู้ราชินีแห่งผักไม่ได้ ซึ่งก็ไม่ใช่ใคร พี่น้องท้องเดียวกันอย่างใบมันเทศนั่นเอง แต่จะหาซื้ออย่างไรได้ล่ะ คงต้องไปปลูกกันเอาเอง ไม่รู้ว่าจะขยายพันธุ์ด้วยหัวได้แบบเดียวกับเพื่อนสนิทอย่างมันฝรั่งหรือเปล่า เท่าที่รู้คือแม่ที่อยู่ต่างจังหวัดใช้ต้นที่เป็นเถาเสียบลงในดิน